วิธีเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางให้เหมาะกับทริปของคุณ

“ตอนไปเที่ยวยุโรป 2 อาทิตย์ เธอเอาของอะไรไปบ้างอ่ะ บอกหน่อยสิ?”

“อาทิตย์หน้าบอสจะให้ไปพบลูกค้าที่สิงคโปร์ 3 วัน 2 คืน ทำยังไงดี?”

“ไปต่างประเทศรอบนี้จะไปช้อปกระจาย ไม่รู้กระเป๋าเดินทาง 29 นิ้วจะใส่ของพอไหม?”

“พักร้อนปีหน้า ฉันจะไปเที่ยวออสเตรเลีย 1 เดือนกับเพื่อนๆ เฮ้อ แต่จะเตรียมตัวยังไงดี?”

จากบทสนทนาในชีวิตประจำวันเหล่านี้ เราก็พอจะรู้ว่าการเตรียมจัดกระเป๋านั้นเป็นเรื่องน่าปวดหัวแค่ไหน ประกอบกับความต้องการในการไปเที่ยวของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดังนั้นขนาดกระเป๋าเดินทางจึงมีความแตกต่างกันมาก ในบทความนี้เราได้รวบรวม “เรื่องยุ่งยากเวลาเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางที่พบบ่อยๆ” รวมทั้งเหตุการณ์ที่เจอเป็นประจำไว้ให้ทุกคนแล้ว หวังว่าทุกคนอ่านบทความนี้จบแล้วจะหาคู่หูในการเดินทางที่เหมาะที่สุดได้!

เริ่มจากปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกขนาดกระเป๋าเดินทาง

จำนวนวันเดินทาง

“ไปเที่ยวกี่วัน?” เรียกได้ว่าเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกขนาดของกระเป๋าเดินทางมากที่สุด ดังนั้นเราจึงเริ่มจากปัจจัยนี้ ทุกคนสามารถวางแผนจำนวนวันเที่ยวตามแผนวันหยุดของตัวเอง (วันหยุดสุดสัปดาห์หรือวันหยุดตามตารางเวลา) หรือวันหยุดราชการ (ดูวันหยุดยาวของปี 2021) และเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางที่เหมาะสมกับจำนวนวันเดินทางได้ พูดง่ายๆ ก็คือจำนวนวันเดินทางยิ่งเยอะ ก็ต้องเตรียมสัมภาระไปเยอะ กระเป๋าเดินทางที่ต้องเตรียมก็ต้องมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย! เรามีวิธีการเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางง่ายๆ ดังนี้

1-3 วัน: 22 นิ้วหรือไซซ์ที่เล็กกว่า (XS, S)

3-5 วัน: 22 – 27 นิ้ว (S, M)

5-7วัน: 27 – 29 นิ้ว (M, L)

7 วันขึ้นไป: 29 นิ้วหรือไซซ์ที่ใหญ่กว่า (L)

 

 

การวัดขนาดนิ้วข้างต้นเป็นการวัดแบบความสูงของกระเป๋าเดินทางทั้งหมด (ถ้าทุกคนอยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติม ไปอ่านกันได้ที่บทความนี้) นอกจากนี้ การวัดขนาดแบบ XS, S, M, L เป็นระบบที่ Departure ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยที่ไซซ์ S หรือขนาดที่เล็กกว่านั้น หมายถึงกระเป๋าเดินทางที่สามารถถือขึ้นเครื่องได้

 

 

ต่อไป เราได้รวบรวมวิธีการเลือกกระเป๋าเดินทางจากหลายๆ มุมมองและสถานการณ์ เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกกระเป๋าเดินทางได้ตามความต้องการของตนเอง

1. จุดหมายปลายทาง

“ไปเที่ยวที่ไหน?” ก็มีผลต่อขนาดหรือน้ำหนักของกระเป๋าเดินทาง เวลาเราไปเที่ยวประเทศไกลๆ เช่น สหรัฐอเมริกา ยุโรป แอฟริกา เนื่องจากใช้เวลาในการบินนาน หลายๆ คนจึงเลือกจะไปเที่ยวหลายวัน (เช่น 1 – 2 สัปดาห์ขึ้นไป) ดังนั้นสัมภาระที่ต้องเตรียมไปก็เยอะและกระเป๋าเดินทางก็ต้องใหญ่ตามไปด้วย

แน่นอนว่าถ้าเราเลือกไปเที่ยวประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือเอเชียตะวันออก เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ สิงคโปร์ เวียดนาม เนื่องจากระยะทางไม่ไกล เวลานั่งเครื่องบินไม่นาน จะไปแล้วไปอีกก็ได้ จำนวนวันที่ไปเที่ยวก็อาจจะไม่นานมาก ก็มักจะใช้กระเป๋าเดินทางใบเล็ก

และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ทริปการเดินทางของทุกคนได้ไป ทะเล ภูเขา ป่าไม้ หรือทะเลทรายหรือไม่ ถ้าไปสถานที่เหล่านี้ นอกจากจะใช้กระเป๋าเดินทางล้อลากแล้ว พกกระเป๋าสะพายใบใหญ่หรือกระเป๋า backpack ไปด้วยก็จะทำให้การเดินทางสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

2. ฤดูกาล

“อากาศที่แตกต่างกันในแต่ละฤดู” ก็เป็นหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกขนาดของกระเป๋าเดินทาง ถ้าเป็นเสื้อผ้าฤดูหนาวจะค่อนข้างหนา เพราะมีเสื้อโค้ดตัวใหญ่ ถุงมือหรือแม้แต่รองเท้าบูท ในทางกลับกัน ถ้าไปเที่ยวตอนหน้าร้อน ของที่ต้องเอาไปก็เบาๆ ง่ายๆ สบายกว่ากันเยอะ! ดังนั้นตอนเลือกกระเป๋าเดินทาง ฤดูกาลจึงเป็นสิ่งที่ต้องคำนึงถึง อย่าให้ตอนไปเที่ยวกระเป๋าเดินทางใส่ของไม่ลงล่ะ!

นอกจากนี้ ยังมีจุดเล็กๆ ที่หลายคนมักไม่ได้คิดถึง คือเรื่องซีกโลก ถ้าจะไปเที่ยวออสเตรเลียหรือนิวซีแลนด์ อย่าลืมว่าหน้าร้อนของเราคือหน้าหนาวของเขา หน้าหนาวของเราคือหน้าร้อนของเขาล่ะ

จากปัจจัยที่บอกไปข้างต้น ทุกคนก็น่าจะเลือกกระเป๋าเดินทางที่เหมาะได้แล้ว แต่ถ้ายังไม่ ก็สามารถอ่านต่อไปเผื่อจะช่วยในการตัดสินใจได้มากขึ้น

3. จุดประสงค์ในการเดินทาง

"จุดประสงค์ในการเดินทาง" ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึง เพราะจะได้เตรียมตัวให้พร้อมในการเดินทางที่แตกต่างกัน

  • ไปช้อปปิ้ง: ถ้าคุณเตรียมจะไปช้อปกระจาย (โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้า) ซึ่งกล่องใส่สินค้ามักมีขนาดใหญ่ จะทำให้ใส่กระเป๋าเดินทางไม่ได้ นี่จึงเป็นจุดที่ต้องระวัง!
  • ไปทำงานนอกสถานที่: ถ้าไปแค่ 1-2 วัน คนทั่วไปก็จะพกแค่กระเป๋าสะพายหรือกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง แล้วก็ใส่เสื้อเชิ้ตกับชุดสูทไปกับตัวเลย ทำให้เสื้อเชิ้ตกับชุดสูทไม่เป็นรอยยับ และใช้กระเป๋าถือขึ้นเครื่องจะได้ไม่ต้องเสียเวลาโหลดกระเป๋าและไม่ต้องรอรับกระเป๋า (ช่วยประหยัดเวลาขึ้นเครื่องบินไปได้อย่างน้อย 30 นาทีเลยนะ) ถ้าไปทำงานหลายวัน ก็ไม่แนะนำให้เอาไปแค่กระเป๋าถือขึ้นเครื่อง เพราะถ้ากระเป๋าใบเล็กเกินไปก็จะทำให้เสื้อเชิ้ตกับชุดสูทเป็นรอยยับได้ (แม้แต่เสื้อแจ็กเก็ตยังโดนพับเลย!)
  • เดินทางเป็นระยะเวลานาน: ถ้าคุณจะไป working holiday เรียนต่อ พักร้อนระยะยาว หรือไปแลกเปลี่ยน โดยเฉพาะที่ที่ไปนาน ก็จะต้องพกของใช้หรือเสื้อผ้าที่จำเป็นไปเยอะ (แน่นอนว่าต้องดูประเทศที่ไป มีบางประเทศที่ไปซื้อของที่นั่นเอาจะสะดวกกว่า) เพราะฉะนั้นควรพกกระเป๋าเดินทางไปมากกว่า 1 ใบ การพกของไปเยอะดีกว่าของขาด ทำให้การเดินทางมีความแน่นอนมากยิ่งขึ้น

ที่กล่าวไปเป็นปัจจัยจากหลายๆ มุมมองที่ทุกคนควรรู้ เพื่อที่จะสามารถเลือกกระเป๋าเดินทางที่เหมาะกับตนเองได้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ต่อทุกคน และเนื่องจากความต้องการในการใช้กระเป๋าเดินทางของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ที่เรารวบรวมมาเป็นเพียงแค่ภาพรวมทั่วไป จริงๆ แล้วการเลือกขนาดของกระเป๋าเดินทางก็ต้องดูความต้องการของตนเองเป็นหลักด้วย

ส่งท้ายก่อนจากกัน

เรารู้ว่าเมื่อทุกคนอ่านบทความนี้จบแล้ว จะสามารถเลือกขนาดกระเป๋าเดินทางที่ตัวเองต้องการได้ นอกจากนี้ เราก็รู้ว่าทุกคนมีความสนใจในเรื่องการเปรียบเทียบรายละเอียดต่างๆ ของกระเป๋าเดินทาง เช่น วัสดุ น้ำหนัก ราคาและบริการซ่อมกระเป๋า เราจะมาลงลึกกันในเรื่องนี้ในบทความหน้า

ถ้าอ่านบทความของเราจบแล้ว ยังมีสิ่งที่ไม่เข้าใจหรืออยากจะรู้ว่าจริงๆ แล้วควรเลือกกระเป๋าเดินทางอย่างไร สามารถฝากข้อความไว้หรือคลิกที่นี่ ให้เราช่วยนะ! นอกจากนี้ เพื่อให้ทุกคนสามารถเลือกกระเป๋าเดินทางที่เหมาะกับตัวเองได้ง่ายๆ บนเว็บไซต์ของเรายังมีฟิลเตอร์ เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเลือกกระเป๋าเดินทางของตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้นด้วย

 


1 comment


  • Telkom University

    what ways does the article aim to simplify the process of choosing luggage sizes for readers, and what benefits are highlighted in understanding these concepts for future travel planning? Visit Us Telkom University


เว็บไซต์นี้ได้รับการคุ้มครองโดย reCAPTCHA และมีการนำนโยบายความเป็นส่วนตัวของ Google และข้อกำหนดในการใช้บริการมาใช้